คลังจี้3กรมภาษีใช้'บิ๊กดาต้า' หนุนสกัดปัญหารั่วไหล-ทุจริต ลุยเปลี่ยนแสตมป์ปิดช่องโหว่

โดย ACT โพสเมื่อ Nov 09,2017

- - สำนักข่าวมติชน - -

 

'อภิศักดิ์'เร่ง 3 กรมภาษี สรรพสามิต ศุลกากร และสรรพากรใช้บิ๊กดาต้าเพิ่มประสิทธิภาพ จัดเก็บ ยันช่วยป้องกันรั่วไหล แก้ปัญหาทุจริต หนุนเกิดความเท่าเทียมกันของผู้เสียภาษี แนะหลักการเก็บไม่ใช่การรีด เดินหน้าเปลี่ยนแสตมป์แบบใหม่ ปิดช่องโหว่ทุจริต ลดเลี่ยงภาษี

         

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บัญชาการกรมสรรพสามิตว่า กรมสรรพสามิตถือเป็นกรมภาษีแรกที่นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างเต็ม รูปแบบ ทำให้ประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เพราะสามารถกำกับดูแลการเสียภาษีของสินค้าแต่ละประเภท ช่วยในการบริหารจัดเก็บภาษี นอกจากนี้ ยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน และผู้เสียภาษี ผ่านอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ ตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำมาตลอดจะให้หน่วยงานราชการก้าวไปสู่ยุคดิจิทัล และก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้ สิ่งที่ อยากเห็นต่อไป คือ 3 กรมภาษี กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และกรมสรรพากร มีระบบฐานข้อมูลสนับสนุนการบริหารการจัดเก็บภาษีและการจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) เพื่อทำให้เกิดการใช้ข้อมูลจัดเก็บภาษีระหว่างกรมภาษี ช่วยทำให้การป้องกันปัญหาการรั่วไหลภาษี ปัญหาการทุจริต ทำให้ผู้เสียภาษีทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เพราะทุกคนต้องเสียภาษีในฐานเดียวกัน

         

"ต่อไปในการจัดเก็บภาษีจะรวมศูนย์ หากพบข้อมูลผิดปกติ สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้ทันที ทำให้การแก้ปัญหาจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างทันท่วงที โดยหลักการจัดเก็บภาษีนั้นไม่ใช่การไปรีด แต่ให้เน้นแนะนำ และให้ความรู้กับ ผู้ประกอบการ และในการเก็บภาษีในอนาคตต้องไปขยายฐานจัดเก็บ จะไม่ใช่การไปขึ้นภาษี หรือเก็บภาษีใหม่ๆ" นายอภิศักดิ์กล่าว

         

นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการเก็บภาษีภาพรวมต่ำกว่าเป้าหมาย ยกเว้นกรมสรรพสามิตที่ไม่เคยจัดเก็บต่ำกว่ามาตลอด 60 ปี โดยสรรพากรจัดเก็บต่ำเป้าหมาย เพราะประเมินราคาน้ำมันก่อนหน้านี้สูงถึง 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ความเป็นจริงอยู่ที่ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ภาษีเกี่ยวข้องกับน้ำมันหายไป 4-5 หมื่นล้านบาท แต่ปีนี้ประเมินราคาน้ำมันกว่า 50 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล และขณะนี้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับดังกล่าว ผลการ จัดเก็บภาษีเดือนแรกกรมภาษียังจัดเก็บเกินเป้าหมาย ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการจัดเก็บภาษีในปีนี้จะไม่ต่ำกว่าเป้าหมาย

         

นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนกรมสรรพสามิตนั้นเร็วๆ นี้จะเปลี่ยนแสตมป์ภาษีที่ใช้มานานกว่า 40-50 ปีใหม่ เพื่อปิดช่องโหว่ในการทุจริต ทำให้การหลบเลี่ยงภาษีลดลง เพราะของเดิมสามารถลอกแล้วไปติดใหม่ได้ แต่ของใหม่จะใช้สติ๊กเกอร์ติดที่สินค้า และมีระบบคิวอาร์โค้ดในการ ตรวจสอบ แม้จะลอกสติ๊กเกอร์ออกไป แต่คิวอาร์โค้ดจะยังอยู่ที่สินค้า ทำให้ตรวจสอบสินค้าได้ตั้งแต่การนำเข้ามาจากไหน เมื่อไหร่ เสียภาษีอย่างไร โดยจะนำมาใช้สินค้ากลุ่มบุหรี่ และสุรา ส่วนเบียร์นั้นส่วนใหญ่จะติดตั้งมิเตอร์วัดการผลิตเพื่อเสียภาษีอยู่แล้ว

         

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ปีงบ 2561 รับเป้าหมายจัดเก็บมา 6 แสนล้านบาท ถือว่าท้าทายเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 7-8% ส่วนแสตมป์รูปแบบใหม่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมพร้อม คาดว่าจะนำมาใช้ เร็วที่สุด

 

 

 

 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน